กระทรวงสาธารณสุขร่วมมือจุฬาฯ โครงการอบรมขับเคลื่อนการสื่อสารสาธารณะและสังคม (Care D+) ประจำปี 2567
เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 ณ ห้องประชุมสัมพุทธเมตตาประชารักษ์ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขและ ศ.นพ.ดร.นรินทร์ หิรัญสุทธิกุล รองอธิการบดี ด้านการติดตามและประเมินผลยุทธศาสตร์ แผน การงบประมาณ และสุขภาวะ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมพิธีเปิดโครงการอบรมขับเคลื่อนการสื่อสารสาธารณะและสังคม (Care D+) ประจำปี 2567 ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงสาธารณสุขและจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยบัณฑิตวิทยาลัย จุฬาฯ โดยมี นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวรายงานความเป็นมาของโครงการ จากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกล่าวเปิดงานและมอบนโยบายการจัดโครงการ Care D+ ศ.นพ.ดร.นรินทร์ หิรัญสุทธิกุล รองอธิการบดี ด้านการติดตามและประเมินผลยุทธศาสตร์ แผน การงบประมาณ และสุขภาวะ จุฬาฯ ส่งรหัสเข้าเรียนและมอบหนังสือสำคัญแก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จากนั้นเป็นการสาธิตเทคนิคการสื่อสารขั้นสูงด้วยแนวทาง Care D+ โดยวิทยากรจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย การวิเคราะห์และอภิปรายกรณีศึกษา โดยวิทยากรจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและกระทรวงสาธารณสุข ปิดท้ายด้วยการแบ่งปันประสบการณ์และความท้าทายในงานสื่อสารในโรงพยาบาล โดยวิทยากรจากกระทรวงสาธารณสุข
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่าการสร้างความเข้าใจ ส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้ป่วยญาติและบุคลากรทางการแพทย์ โดยการสร้างทีมประสานใจ หรือ Care D+ เป็นนโยบายสำคัญของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อสื่อสารทำความเข้าใจกับผู้ป่วยและญาติผู้ป่วยให้ได้รับทราบถึงขั้นตอนแนวทางการรักษาพยาบาล ลดความไม่เข้าใจระหว่างกันที่อาจจะเกิดขึ้นกระทรวงสาธารณสุขได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการเรื่องการสื่อสารอย่างเข้าอกเข้าใจ (Emphatic Communication) ในภาคการดูแลสุขภาพร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2566 โดยร่วมกันพัฒนาหลักสูตรมาตรฐาน Care D+ เพื่อยกระดับคุณภาพการสื่อสารในภาคการดูแลสุขภาพอบรมบุคลากรสาธารณสุขให้มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องของการสื่อสารมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของการบริหารจัดการภาวะวิกฤตทางการสื่อสาร (Crisis Communication Management) และการสื่อสารด้วยความเข้าใจเชื่อมอารมณ์ความรู้สึกกัน (Emphatic Communication) ซึ่งจะทำให้ทีม Care D+ สามารถรับฟังผู้ป่วยและญาติอย่างเข้าใจและเห็นอกเห็นใจสามารถบริหารจัดการหรือตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างถูกต้องช่วยลดความไม่เข้าใจกันหรือความขัดแย้งระหว่างกันลงได้ การอบรมมีทั้งแบบออนไซต์และออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์ม cug.academy โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารและจิตวิทยาจากบัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นวิทยากร เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 เป็นต้นไป โดยภายในเดือนธันวาคมนี้จะมีทีม Care D+ 1,000 คน และจะครบ 10,000 คน ตามเป้าหมายภายในเดือนเมษายน 2567 โดยจะมีการประเมินผลการอบรมและปรับปรุงหลักสูตรการอบรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้บุคลากรที่ผ่านการอบรมหลักสูตรนี้สามารถสื่อสารประสานใจสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกันได้อย่างดี
ศ.นพ.ดร.นรินทร์ หิรัญสุทธิกุล รองอธิการบดี ด้านการติดตามและประเมินผลยุทธศาสตร์ แผน การงบประมาณ และสุขภาวะจุฬาฯ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขและจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยร่วมกันพัฒนาหลักสูตรมาตรฐาน Care D+ เป็นการสื่อสารในการสร้างความเข้าใจกับผู้ป่วยและญาติเพื่อให้รู้สึกคลายกังวล สร้างความเข้าอกเข้าใจให้กับประชาชน ทำให้ประสิทธิภาพในการบริการประชาชนทำได้สูงสุด โดยหลักสูตร 7 บทเรียนจะมีทั้งทฤษฎีและภาคปฏิบัติ หลังจากนั้นก็จะมีการสอบวัดผลด้วย
เอกสารแนบ :